วันอาทิตย์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

Andrew's Diseases of the Skin 11th edition

เล่มนี้น่าจะใช้ได้ ไฟล์สวย สำหรับเืรื่องผิวหนังที่เรากังวล

วันจันทร์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2556

WILLIAMS TEXTBOOK OF ENDOCRINOLOGY 12th EDITION

เล่มนี้เห็นเค้าว่าถ้าเป็นเรื่องฮอร์โมน เล่มเดียวเอาอยู่ แต่เท่าที่เปิดดู โห ละเอียดจังฮัฟ

วันอังคารที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2556

Phamacology ของ เจ๊ Katzung แห่งสำนัก LANGE

เล่มที่อาจารย์พูดถึงบ่อยๆ
พร้อมให้สัมผัสแล้ววันนี้
คนโพสต์ยังไม่เคยอ่าน เม้นต์ไม่ถูกครับ


แถมๆๆๆ

วันจันทร์ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2556

HENRY’S CLINICAL DIAGNOSIS AND MANAGEMENT

อาจารย์ประจำบล๊อกแนะนำมาว่าใครๆก็อ่านกัน 
HENRY’S CLINICAL DIAGNOSIS AND MANAGEMENT
By Laboratory Methods, Twenty-Second Edition
แหม่ ตีพิมพ์ครั้งที่ 22 แล้ว คงไม่ธรรมดาอย่างที่เค้าว่ากัน
ลองดูนะครับ ตัวหนังสือยังกะมดเลยทีเดียว


วันพุธที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

มาดูสาเหตุการตายหลากหลายแบบกันดีกว่า

ลองนั่งดูไปเรื่อยๆ แล้วจะพบว่าบางทีคนเราก็ตายด้วยสาเหตุไม่น่าเชื่อเลยจริงๆ
เช่น มีเด็กคนนึงที่แม่ชอบเอาแป้งทาๆให้ทั่วตัว ปรากฎว่าแป้งหลุดเข้าปอด ฟอร์มตัวเป็นก้อนอุดหลอดลม ตายภายใน 3 ชั่วโมง (เจอภายหลังว่าในแป้งมีซิลิกาด้วย ... มายังไงวะ)

Color atlas of anatomical pathology by Robin A. Cooke

วันเสาร์ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

หนังสือ Pathology 2 เล่ม เล่มนึงสรุป เล่มนึงเทส

บล๊อกนี้ศัพท์ใหม่ๆงอกเพียบเลย ตั้งใจอ่านหนังสือกันนะครับ
1.BRS Pathology (Board Review Series): Arthur S. Schneider สรุปจุดสำคัญๆ เน้นๆเนื้อๆ
2.Lippincott's Illustrated Q&A Review of Rubin's Pathology ถามตอบ พร้อมเฉลยละเีอียด

วันศุกร์ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

Medical Dictionary 2 เล่ม

หาของ dorland ไ่ม่ได้เลย
แต่ว่าเล่มนึงในนี้ก็ลักษณะคล้ายกัน ความอลังการไม่น้อยหน้าครับ
1.Taber's cyclopedic medical dictionary - ใช้แทน Dorlands ได้เลยล่ะ
2.Black's medical dictionary - เล่มเล็กกว่า หาง่าย แบบเบสิคๆ

วันพุธที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

คู่มือ Histology ครับ

มี 2 เล่มมาแนะนำ คือ
1.Difiore's atlas of histology 11th edition รูปประกอบเยอะแยะ คำบรรยายดูง่าย
2.Ross Histology text and Atlas 6th edition รูปประกอบใหญ่ คำบรรยายดูยาก เพราะอยู่คนละหน้า แต่มีไดอะแกรมการ์ตูน ช่วยให้เข้าใจเบสิคดีขึ้น เอาไว้ฟื้นฟูความรู้เิดิมได้

วันอาทิตย์ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

Clinical Immunology&Serology

Clinical Immunology เล่มนี้อธิบายวิธีการตรวจทางห้องปฎิบัติการที่เกี่ยวข้องกับภูมิคุ้มกันไว้ค่อนข้างมาก
แต่เบสิคเกี่ยวกับ immune response ก็มีให้อ่านเหมือนกันครับ


วันศุกร์ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

หนังสือ Immunology ของคุณลุง Abbas ที่ใครๆก็แนะนำครับ

อ่าน Immunology ทีไร เห็นแต่ T-cell กับ B-cell แต่สามารถเขียนหนังสือได้เป็นเ่ล่มโตขนาดนี้ นับถือเค้าจริงๆ เล่มนี้คือ Edition ล่าสุดของคุณลุง Abbas ครับ เป็นเล่มที่อาจารย์หลายท่านแนะนำว่าอาจช่วยพวกเราได้ (ถ้าเราอ่านนะ) ผมว่ารูปประกอบในเล่มมีมากมาย จนเราสามารถดูรูปโดยไม่ต้องอ่านข้อความยังได้เลย Enjoy Reading ครับ

วันพุธที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

แนะนำหนังสือ 2 เล่มสำหรับบล๊อก Immuno-Infectious ครับ

หนังสือที่อาจารย์ดวงกมลเคยแนะนำคือเล่มเบสิคอิมมูโนโดยคุณลุง Abbas
ซึ่งเห็นมีชื่อแกปรากฎอยู่ในเล่ม Pathology ของ Robbins ด้วย สงสัยมา่ช่วยกันเขียน

อีกเล่มคือของ Kuby แนะนำโดยอ.สุรัตน์
เปิดดูแล้ว รูปสวยสบายตา น่าจะอ่านเพลินทั้งสองเล่มครับ





วันอาทิตย์ที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

First Aid - USMLE : Basic Sciences

สำหรับบล๊อกไมโครที่เรากำลังเรียนอยู่นี้
เรื่องไวรัสน่าปวดหัวฝุดๆ เล่มนี้อาจช่วยได้ครับ
เห็นจูเนียร์นั่งอ่านเมื่อวาน น่าสนใจ

วันศุกร์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2556

หนังสือ 2 เล่ม ในซีรีย์ First Aid-USMLE มีเนื้อหาช่วยเตรียมสอบ Micro ได้ครับ

เล่มแรก First Aid for USMLE step1-2013
เล่มนี้ยังไม่มีไฟล์มาสเตอร์มออกมา แต่ก็เป็นไฟล์แสกนที่ชัดมาก พอใช้ได้ครับ
สรุปเนื้อหาแบบเนื้อๆเน้นๆ เห็นมีข่าวว่าเล่มของปี 2012 เนื้อหาไมโครผิดค่อนข้างเยอะมาก และถูกแก้ไขแล้วใน Ed 2013 นี้จริงเท็จประการใด ลองตรวจสอบดู

เล่มที่สอง First Aid Q&A For USMLE Step 1 2nd Edition
เป็นเล่มรวมข้อสอบ USMLE-Type แบบโจทย์เวิ่นๆยาวๆ ให้ฝึกทำ
สำหรับล๊อกไมโคร ถ้าอาจารย์โสภิศจะมาแนวนี้ ก็น่าฝึกทำดูครับ มีหมดทั้งแบคทีเรีย เชื้อรา พาราไซต์ และไวรัส และเฉลยละเอียดมาก จะได้รู้ว่าฝรั่งเค้าเรียนเหมือนเราหรือเปล่า



วันจันทร์ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2556

แนะำนำหนังสือ Microbiology เพิ่มเิติม

อัพเดทหนังสือที่เกี่ยวข้องกับ Blog Microbiology นะครับ
ในส่วนแนะนำตำราเด็ด ได้มีแนะนำไปบ้างแล้ว อันนี้คือที่เพิ่มเติมครับ
เนื้อหาในเล่มของ Totora - Microbiology และ Burton-Microbiology for health science
จะค่อนข้างมีรายละเอียดเสริมกับที่เราเรียนอยู่ปัจจุบันได้ดีที่เดียว

ส่วน color atlas pf diagnostic microbiology ก็มีรูปเชื้อสวยๆให้ดูเยอะเลยครับ
น่าจะครอบคลุมทั้งหมดที่เราจะได้เรียนกันในสองสามวันนี้

เล่มที่อาจารย์แนะนำมาของ Murrey ในห้องสมุดของคณะยังพอมีเหลือ Edition เก่าๆอยู่
ถ้าใครไม่ฮิ ก็สามารถไปยืมมาอ่านได้ครับ




วันเสาร์ที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2556

หลังจากได้สอบ NL ครบทั้ง 3 parts ก็ได้ค้นพบว่า... (จาก หมอ ม.ขอนแก่น)

บทความนี้คุณ dume (Medicine 31st KKU)
ได้โพสต์ไว้ในเวบไซต์ http://www.med-kku.com
เพื่อแชร์ประสบการณ์การสอบ NL ทั้งสามครั้งของตน 
อ่านแล้วได้ความรู้ดีครับ

------------------------------------------------------------

ขอเอาประสบกามและการณ์ส่วนตัวมาเล่าสู่กันฟัง และขอแนะนำเทคนิคเล็กๆน้อยๆที่พี่ลองทำแล้วประสบความสำเร็จ(มั้ง)
NL1  
1. Gross anatomy ถ้าไม่มีเวลาก็ไม่ต้องอ่านก็ได้
2. วิชาที่บังคับอ่านและควรจะจำได้ ได้แก่ Pathology, phamacology, physiology, hematology
3. วิชาอื่นๆแล้วแต่ศรัทธาครับ คือควรอ่านให้ครบแต่ไม่ต้องตะบี้ตะบันท่องจำ แค่เข้าใจ concept พอ
4. ถ้ามีข้อสอบเก่าควรอ่านข้อสอบเก่าก่อนแล้วค่อยไปอ่านหนังสือ จะได้รู้จุดที่ควรอ่านเน้นๆ(ขึ้นอยู่กับเทคนิคแต่ละคน แต่ตอนปีพี่สอบมันไม่มีข้อสอบเก่าอ่ะ)
5. ข้อสอบจะไม่ถามแบบเน้นความจำมากมาย คือไม่ต้องจำได้เป๊ะๆว่า nerve เส้นนี้เลี้ยงที่กล้ามเนื้อมัดไหน

การเตรียมตัวสอบ NL part 1,2

ไปเจอบทความนี้มาจากเวป http://www.thaimedinter.com โดยคุณ pimthita
เนื้อหาค่อนข้างเยอะ แต่ก็น่าอ่านเพราะเธอบรรยายจากความประสบการณ์ตรง

** หมายเหตุ**
เนื้อหาที่โพสต์นี้ดึงมาจากกระทู้ที่มีการโต้ตอบกันระหว่างคุณ  pimthita กับสมาชิกในบอร์ด
แต่ข้อความที่สมาชิกท่านอื่นโพสต์ถามเธอ ไม่ได้เอามาด้วยนะครับ

เกิ่นนำก่อนว่า..ตั้งแต่แพทยสภาประกาศจัดสอบใบประกอบโรค
และตั้งแต่ปี 2549 นักศึกษาแพทย์ทั่วประเทศก็ต้องสอบเหมือนกัน..
กลายเป็นความซวยของนักศึกษาแพทย์คนหนึ่ง..ที่ครั้งนั้นเพิ่งจะรู้ตัวเองว่าจะต้องเข้าทดสอบในปีหน้า..
เมื่อข้ามฟากมาเรียนที่คณะวิทย์ พยาไท ..ชีวิตเปลี่ยนจากปี1 ที่ศาลายามาก
ทุกอย่างก็เปลี่ยนแปลงไป เพราะตอนเรียนปีหนึ่งอาจารย์ก็สอนทุกอย่าง
อยู่ที่นี่..การเรียนห้องเรียน L. ไม่เคยมีการลงชื่อเข้าเรียน ฉันเองยังตื่นไปเรียนไม่ไหวบ้าง..
การเรียนการสอนแบบ PBL ที่เพิ่งเปลี่ยนมาใช้เมื่อปีที่แล้ว..
ความรู้สึกส่วนตัวชอบการเรียนแบบนี้ แต่ก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะได้ความรู้เท่าไหร่ เพียงพอรึยัง?
ชีวิตตั้งแต่ปีหนึ่งนั้นเพื่อนก็โทรตามไปเข้าเรียนบ่อยๆ นอกจากบางวิชาที่ชอบ(ซึ่งไม่ใช่วิชาการเท่าไหร่)ก็จะไปเรียน
เพราะปีหนึ่งเคยใช้ชีวิตเฮฮามาตลอด ..พอข้ามฟากอยู่ไกลเพื่อนก็เกเรบ่อยๆ
ความคิดไว้แค่ว่า เราไม่อยากจะลำบากไม่อยากจะเครียดในตอนนั้นก็พอแล้ว